3 บ้านโมเดิร์นยุคใหม่ อยู่อาศัยได้ถึงรุ่นลูกหลาน

ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของบ้านหลังนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเป็นบ้านอีกหลังที่ไม่เหมือนใคร แม้ตัวบ้านจะมีลักษณะคล้ายอาคารยุคใหม่ที่นำตู้คอนเทนเนอร์มาเรียงต่อกัน แต่ Casa El Maqui ก็มีความเป็นธรรมชาติและดูอ่อนโยนกว่า ด้วยการใช้ไม้เป็นส่วนประกอบหลัก และการวางห้องต่างๆ ให้ซ้อนเหลื่อมกัน ทั้งนี้นอกจากอาคารหลักตรงกลางที่เป็น 2 ชั้น ยังขยายอาคารออกเป็นคล้ายปีกที่โอบล้อมพื้นที่เอาไว้ ขณะเดียวกันก็ดูเป็นส่วนหนึ่งของภูเขาที่ล้อมรอบบ้านไว้อีกต่อหนึ่ง

ตรงตัวอาคารหลักที่เป็นเหมือนกล่อง 2 ชั้นเรียงต่อกัน แท้ที่จริงคือที่ตั้งของโถงหลักของบ้าน โดยลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของบ้านหลังนี้ก็คือการใช้แผ่นไม้มาประดับทั้งด้านนอกและด้านในตัวบ้าน ตั้งแต่หลังคา ฝ้าเพดาน ผนัง หรือแม้แต่ปูพื้นบ้าน ทำให้บ้านดูเป็นธรรมชาติและให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ยิ่งเมื่อมีการเล่นระดับทำให้เกิดเป็นเส้นเว้าเส้นโค้ง ก็ยิ่งทำให้ห่างจากความแข็งของบ้านสไตล์โมเดิร์น แต่ดูพลิ้วไหว ชวนให้ผ่อนคลายแทน

จากส่วนที่เป็นโถงหลังคาสูงแบบ Double Space ในภาพก่อนหน้า ใกล้กับโซนที่เห็นเป็นที่นั่งกินข้าว และที่นั่งเล่นบนชั้นลอย ที่ชั้นหนึ่งยังเป็นที่ตั้งชุดโวฟาขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็นห้องนั่งเล่นและที่รับแขก โดยตรงจุดนี้จะใช้การทำพื้นต่างระดับ และเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นหินธรรมชาติแทนพื้นไม้ เพื่อแบ่งแยกพื้นที่ใช้สอยอย่างชัดเจน

บ้านสไตล์โมเดิร์นอีกหลังที่มีรูปแบบคล้ายกับหลังแรก ขนาดพื้นที่ใช้สอย 230 ตารางเมตรก็ไม่ต่างกับหลังแรกมากนัก หากแต่ Casa Rosales Quijada จะมีรูปทรงที่ดูแข็งเป็นเรขาคณิตมากกว่า ทั้งปีกที่ยื่นออกจากตัวอาคารหลักยังเป็นแบบตรง ให้ความรู้สึกคล้ายทรงกางเขน นับเป็นบ้านที่ดูเท่และไม่เหมือนใครอีกหลังหนึ่ง

เช่นเดียวกับบ้านหลังแรก ภายในบ้านที่ดูเป็นทรงกล่องนั้นถูกออกแบบให้ดูนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ ด้วยการใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก หากแต่บ้านหลังนี้เราจะเห็นการใช้คอนกรีตมากขึ้น จึงเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ไม้ คอนกรีต และกระจกให้สอดประสานกันไปได้อย่างกลมกลืน 

นอกจากนี้ ยังจะได้เห็นการดึงสีของวัสดุก่อสร้างมาใช้ตกแต่งบ้านด้วย เช่น ชุดเก้าอี้บนชั้นลอยที่สีเข้ากับกรอบประตูบ้าน ชุดโต๊ะกินข้าวที่เป็นสีเดียวกับผนัง ขณะเดียวกัน ที่กลางบ้านก็ได้มีการออกแบบชุดโต๊ะรับแขกและพรมให้มีสีที่โดดเด่นกว่าส่วนอื่น เป็นการสร้างสีสันให้แก่บ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นชิ้นหลัก ได้อย่างแตกต่างแต่มีเอกภาพเป็นอย่างดี

องค์ประกอบส่วนบันไดบ้านที่เห็นอยู่นี้ทำให้เรานึกถึงคุณสมบัติอย่างหนึ่งของงานโมเดิร์น นั่นคือการเคารพในรูปแบบของโครงสร้างโดยไม่ต้องเสริมแต่อะไรหรือปกปิดให้มากนัก อย่างตัวบันไดโลหะผสมไม้และชานพักด้านบนนี้ ก็ดูสวยงามเข้ากันได้ดีกับผนังคอนกรีตด้านหลัง แถมด้วยตำแหน่งการวาง ยังทำให้เกิดเงาตกกระทบจากแสงที่ทอดเข้ามา  เกิดเป็นเส้นสายที่น่าสนใจบนผนัง นอกจากประโยชน์ด้านการใช้งานตรงตัวแล้ว ถ้าจะบอกว่าบันไดบ้านคือของตกแต่งอีกชิ้นก็คงไม่ผิดนัก

ในบรรดาบ้านสวยสไตล์โมเดิร์นทั้ง 3 หลัง ถ้าจะบอกว่า Casa Chamisero มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น สะดุดตาที่สุดก็คงไม่ผิดนัก ด้วยการผสานกันของงานไม้ งานคอนกรีต และงานโลหะเข้าด้วยกัน แถมยังมีรูปทรงที่นำทั้งทรงกระบอก ทรงโค้ง และสี่เหลี่ยมเข้ารวมกันอีกด้วย

ทั้งนี้ภายใต้รูปทรงต่างๆ ที่ผสมกันอยู่ในบ้านหลังนี้ เบื้องหลังคือพื้นที่ส่วนตัวที่ถูกออกแบบมาให้เป็นสัดส่วนและหลบหลีกจากสายตาผู้พบเห็น ไม่ว่าจะเป็นทางเดินขึ้นบ้าน บ่อน้ำรอบบ้าน หรือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมวิวรอบบ้านในสไตล์อินฟินิตี้พูล สมกับเป็นอาณาจักรขนาดเกือบ 800 ตารางเมตรจริงๆ

การตกแต่งด้านในบ้านมีความสอดคล้องกับด้านนอก ด้วยการใช้ไม้ โลหะ และกระจกเป็นวัสดุหลัก โดยในส่วนของงานไม้ ผู้ออกแบบยังคงเน้นความสวยงาม เนียนเรียบ และเส้นสายที่เกิดจากการเรียงแผ่นไม้อย่างประณีต ก่อนจะเสริมด้วยของตกแต่งต่างๆ อย่าง โคมไฟแชนดาเลียร์ ขณะที่การออกแบบบ้านให้มีส่วนเชื่อมต่อกับพื้นที่ด้านนอกผ่านกระจกบานใหญ่ ก็เพิ่มช่องทางให้แสงส่องเข้าบ้านได้ ทำให้บ้านดูโล่งกว้าง และสว่างไสว

ความเป็นโมเดิร์นของคอนกรีต กระจก และโลหะ ถูกเบรคให้อยู่ในจุดที่ดูผ่อนคลายยิ่งขึ้นผ่านของตกแต่งบ้านสีสดเช่นที่เห็นอยู่ เป็นการแต่งแต่งความเป็นโบอีเมียนเก๋ให้กับตัวบ้าน ทั้งนี้การนำเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ของใช้ในบ้านสีสดมารวมไว้ในจุดเดียว ยังสร้างลูกเล่นให้กับบ้านได้โดยไม่มากเกินไป เพราะแม้จะมีมากชิ้น แต่ทุกอย่างรวมกันอยู่ในจุดเดียว ดูไม่รก เลอะเทอะ จนไปทำลายตัวตนของบ้านอีกด้วย

แถมท้ายกันด้วยห้องครัวสุดสดใส(แบบสีสันพอเหมาะ) ที่เราเห็นแล้วชวนให้นึกว่าต้องเข้ากับการตกแต่งภายในของ Casa Chamisero แน่ๆ แม้จะไม่ใช่ผลงานของ GITC แต่เป็นบริษัทสถาปนิกจากบราซิล ประเทศข้างเคียงของชิลี แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับใครที่อยากนำมาประยุกต์ใช้กับครัวที่บ้าน เป็นการนำสีสันมาแต่งแต้มในครัวไม้และโลหะได้อย่างเหมาะเจาะนั่นเอง

การสร้างบ้านที่เหมาะกับตัวตนของเรา อาจต้องใช้เวลาและงบประมาณอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่การคิด การตัดสินใจ เรื่อยไปถึงการหาผู้ออกแบบ ช่างฝีมือ และวัสดุที่เหมาะสม แต่หากสามารถทำได้แล้ว บ้านที่เราบรรจงสร้างขึ้นมาให้เป็นแบบที่เราต้องการและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ก็ย่อมจะเป็นความภูมิใจของเราได้ตลอดไปจนถึงรุ่นลูกหลานทีเดียว